สกอตแลนด์ เป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร (ประเทศอังกฤษ) โดยครอบคลุมพื้นที่หนึ่งในสามทางตอนเหนือของเกาะบริเตนใหญ่ มีพรมแดนร่วมกับประเทศอังกฤษ ทางทิศใต้ ส่วนที่เหลือล้อมรอบด้วยมหาสมุทรแอตแลนติก นอกเหนือจากแผ่นดินใหญ่แล้ว ประเทศสกอตแลนด์ยังมีเกาะอีกกว่า 790 เกาะ
นอกจากนี้น่านน้ำสกอตแลนด์ประกอบด้วยทะเลแอตแลนติกเหนือ และทะเลเหนือซึ่งมีปริมาณน้ำมันสำรองใหญ่สุดในสหภาพยุโรป ทำให้เมืองแอเบอร์ดีน นครใหญ่สุดอันดับสามในสกอตแลนด์ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงน้ำมันของทวีปยุโรปสกอตแลนด์ มีประชากรประมาณ 5,463,300 คนนับว่าน้อยมากเมื่อเทียบ กับอิงแลนด์ (อังกฤษ) ซึ่งมีประชากรถึง 56,286,961 คน แบบว่าสกอตแลนด์นั้นมีประชากรน้อยกว่าอิงแลนด์ร่วม 10 เท่า จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมื่อรบกันทีไรอิงแลนด์ก็มักจะได้รับชัยชนะอยู่เสมอ
สกอตแลนด์ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 5,000 ปี โดยมีหลักฐานการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ในสกอตแลนด์ ตั้งแต่ ยุคหินใหม่ (Neolithic) และยุคสำริด (Bronze Age) ซึ่งมีการสร้างสิ่งก่อสร้างที่เรียกว่า สโตนเฮนจ์ (Stonehenge) ที่เกาะสกาย (Isle of Skye) และเกาะอารัน (Isle of Arran)
ราชอาณาจักรสกอตแลนด์ เป็นประเทศอิสระที่ไม่ขึ้นกับประเทศอังกฤษจนถึงปี 2146 (ตรงกับสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชของไทยเรา) เมื่อพระเจ้าเจมส์ที่ 6 แห่งสกอตแลนด์ครองบัลลังก์อังกฤษ โดยทรงใช้พระนามว่าพระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ เนื่องจากพระองค์เป็นพระปนัดดาของพระนางเอลิซาเบธที่ 1 ผู้สวรรคตโดยไม่มีรัชทายาทจึงมีผลให้ทั้งสองประเทศมีพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวกันเรียกว่า การรวมราชบัลลังก์ (Union of the Crowns)
นอกจากนี้น่านน้ำสกอตแลนด์ประกอบด้วย ทะเลแอตแลนติกเหนือ และทะเลเหนือ ซึ่งมีปริมาณน้ำมันสำรองใหญ่สุดในสหภาพยุโรป ทำให้เมืองแอเบอร์ดีน นครใหญ่สุดอันดับสามในสกอตแลนด์ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงน้ำมันของทวีปยุโรปสกอตแลนด์ มีประชากรประมาณ 5,463,300 คนนับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับ อิงแลนด์ (อังกฤษ) ซึ่งมีประชากรถึง 56,286,961 คน แบบว่าสกอตแลนด์นั้นมีประชากรน้อยกว่าอิงแลนด์ร่วม 10 เท่า จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมื่อรบกันทีไรอิงแลนด์ก็มักจะได้รับชัยชนะอยู่เสมอ
ในสหราชอาณาจักรนั้นมีสภาพอากาศที่ไม่สามารถคาดเดาได้ แน่นอนว่าในสกอตแลนด์เองก็เช่นกัน สภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลงเกือบตลอดเวลา บางครั้งอาจได้เจออากาศร้อน อากาศหนาว มีฝนตก และมีลมแรงในวันเดียวกันเลยก็ได้
ดังนั้นก็ควรที่จะเตรียมตัวโดยการใส่เสื้อผ้าหนาๆซัก 2-3 ชั้น เช่น เสื้อยืด เสื้อกันหนาวและเสื้อโค้ต ซึ่งสามารถถอดออกได้หากรู้สึกร้อน ในฤดูหนาวจะมีอุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 2-7 องศาเซลเซียส (36-45 องศาฟาเรนไฮต์) ส่วนในฤดูร้อนจะมีอุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 9-18 องศาเซลเซียส (48-64 องศาฟาเรนไฮต์)
โดยทั่วไปทางทิศตะวันตกของสกอตแลนด์ มักจะอุ่นกว่าทางทิศตะวันออก เนื่องจากอิทธิพลของกระแสน้ำในมหาสมุทรแอตแลนติกที่ Western Highlands ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีเกาะเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญทางเศรษฐกิจอีกด้วย
เกาะสกาย คือสถานที่ซึ่งไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะหากมาเที่ยวสกอตแลนด์แต่ไม่ได้มาเยือนเกาะแห่งนี้ คุณจะคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่องแน่นอน (ฮ่า ๆๆ) เพราะมันเป็นเสมือนแลนด์มาร์กสำคัญด้านสถานที่ท่องเที่ยวของสกอตแลนด์ อีกทั้งความงดงามของมันยังเหมือนดินแดนในเทพนิยาย ทั้งภูเขา สายน้ำ และหมู่บ้านที่ถูกห้อมล้อมด้วยบรรยากาศสุดโรแมนติก นอกจากจะเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจแล้ว ยังเหมาะเป็นสถานที่สำหรับจัดงานวิวาห์หรือขอสาวแต่งงานอีกด้วย
หาก เกาะสกาย เป็นดั่งดินแดนในเทพนิยาย เอดินเบอระ ก็คงเปรียบได้กับสวรรค์บนดิน เพราะมันเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างที่มีสถาปัตยกรรมอันงดงาม และเก่าแก่ ควรค่าที่มาเห็นกับตาตัวเองสักครั้ง
นอกจากนี้หากอยากให้คุ้มค่ากับการเที่ยวสกอตแลนด์สุด ๆ ละก็ คุณจะต้องชมความงดงามของเอดินเบอระ ทั้งในยามกลางวันและยามค่ำคืน กับโมเม้นท์สวยสะดุดตาที่ต่างกันในเวลาท้องฟ้าแจ่มใสหรือเวลาท้องฟ้ามืดมิด แต่เมืองทั้งเมืองกลับส่องสว่างด้วยแสงไฟที่เล็ดลอดออกจากหน้าต่างของตึกรามบ้านช่อง ที่สำคัญบรรยากาศยังโรแมนติกสุดๆ ด้วย
เกาะ Arranอยู่ทางด้านชายฝั่งตะวันตกของชายฝั่งสกอตแลนด์ และสามารถเดินทางจากกลาสโกว์โดยใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น จุดเด่นยังอยู่ที่ภูเขาสูงซึ่งมีจุดชมวิวสวย ๆ อยู่ที่ระดับความสูง 2,866 ฟุต มันจึงเป็นอีกสถานที่สุดท้าทายของนักไต่เขาที่อยากจะไปพิชิตและยืนชมความงดงามยามพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า นอกจากนี้ยังมีปราสาทเก่าแก่อย่าง Broddick Castle ซึ่งตั้งอยู่ริมหาด อีกทั้งการล่องเรือชมความงดงามของธรรมชาติรอบเกาะก็เป็นกิจกรรมที่สนใจไม่น้อยเลย
ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง สำหรับขับรถจากเอดินเบอระ มายังเซนต์แอนดรูส์ ที่ซึ่งคุณจะทึ่งไปกับความยิ่งใหญ่ ของซากปรักหักพังบริเวณทุ่งโล่งกว้างริมทะเล ที่หลงเหลือไว้เป็นอนุสรณ์ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์ และที่มา ของสกอตแลนด์
นอกจากนี้หากเดินสำรวจไปเรื่อยๆ จะพบกับบันไดทางขึ้น ซึ่งจะนำคุณมาสู่จุดชมวิว และแน่นอนว่าคุณจะเห็นความกว้างใหญ่ของทะเลเหนือ และแนวเขาไกลลิบตาที่ตั้งเป็นแนวสลับซับซ้อน อีกทั้งยังเห็นหมู่บ้านซึ่งมีสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ ที่ดูขัดแย้งกับสนามกอล์ฟอันทันสมัยด้านข้าง
ในดินแดนแห่งนี้มีตำนานเล่าขานกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันว่า ทะเลสาบล็อคเนส เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ประหลาดที่เรียกว่า เนสซี ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตลึกลับขนาดใหญ่ที่ผู้คนยังคงพิสูจน์และค้นหาความจริงอยู่เรื่อยๆ
นอกจากนี้ยังมีที่ราบสูงซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาท Urquhart ที่ปัจจุบันหลงเหลือไว้เพียงซากปรักหักพังเท่านั้น ความน่าสนใจของดินแดนแห่งนี้ยังอยู่ที่ ภูเขาไฟเกล็นโคซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลสาบ และมีทัศนียภาพที่งดงามเหมาะแก่การนั่งเรือเข้าไปชมใกล้ๆ อีกทั้งยังมีเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ว่ามันเคยเป็นที่สำหรับสังหารหมู่อย่างเหี้ยมโหดในศตวรรษที่ 17 ด้วย
สกอตแลนด์เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย อีกทั้งยังเป็นต้นกำเนิดของนักประพันธ์และวรรณกรรมสุดเลื่องชื่อ และ ถ้าหากว่าคุณเป็นผู้ที่หลงใหลการอ่านวรรณกรรมเป็นชีวิตจิตใจละก็ แวะเวียนมาที่โบสถ์รอสลินได้เลย เพราะนอกจากความสวยงามและความเก่าแก่ของโบสถ์จะ เป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวแล้ว มันยังเป็นสถานที่ซึ่งเป็นจุดกำเนิดที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับ แดน บราวน์ ก้องโลกอย่างรหัสลับดาวินชี (Da Vinci Code) อีกด้วย ไม่แน่นะ...ใครที่ชอบงานเขียนหากได้มาเยือนสถานที่แห่งนี้ อาจจะได้แรงบันดาลใจในการสร้างงานเขียนกลับไปเต็มกระเป๋าเลยก็ได้
หากยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเดินทางท่องเที่ยวที่ไหนดี เราขอแนะนำให้ซื้อทัวร์กับรถซิตี้บัส ที่จะนำคุณไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวอันน่าสนใจมากมาย โดยเขาจะแวะจอดบริเวณสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญให้คุณได้ไปสัมผัสแบบครบถ้วน จึงไม่ต้อง กังวลว่าจะหลงทางหรือปวดหัวกับการวางแผนท่องเที่ยวเลย โดยรถซิตี้บัสทัวร์ เช่น กลาสโกว์, เอดินเบอระ และโอบาน เป็นต้น
งานนี้เรียกว่านอกจากจะได้บรรยากาศในการนั่งรถทัวร์ชมเมืองแล้ว ยังนับว่าคุ้มค่ามากทีเดียว เพราะราคาเริ่มต้นสำหรับผู้ใหญ่นั้นอยู่ที่ไม่เกินหนึ่งพันบาท เรียกว่าน่าสนใจไม่น้อย
ตำนานอันโด่งดังและมีชื่อเสียงของสกอตแลนด์เกิดขึ้นที่ทะเลสาบ Loch Ness ตั้งอยู่ในส่วนไฮแลนด์ของประเทศสกอตแลนด์ “Neisse” เนสซี่ เป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างเหมือนไดโนเสาร์มีคอยาวอยู่ใต้ท้องทะเล เรื่องราวของเนสซี่ยังเป็นเรื่อง ลึกลับ และเป็นที่สนใจของคนทั้งโลกจนถึงปัจจุบัน หากไปเที่ยวที่นี่เราสามารถล่องเรือชมทะเลสาบแห่งนี้ได้อีกด้วย
กระบวนการหมักการกลั่น มีขั้นตอนอย่างพิถีพิถัน พัฒนามาเป็นระยะเวลายาวนานจนทำให้คุณภาพของสกอตวิสกี้ เป็นที่เลื่องลือจนถึงปัจจุบันนี้ สกอตวิสกี้ เป็นเครื่องดื่มดั้งเดิมเป็นเอกลักษณ์ และเป็นสิ่งที่ทำให้เรานึกถึงสกอตแลนด์ เช่นเดียวกับอีกหลายๆประเทศที่มีเครื่องดื่มที่แสดงเอกลักษณ์ของตัวเอง
สกอตวิสกี้ เป็นเครื่องดื่มดั้งเดิมของสกอตแลนด์ที่มีชื่อเสียงที่สุด โรงกลั่นที่มีคุณภาพผลิตวิสกี้ มีอยู่หลายแห่งในสกอตแลนด์ ความแตกต่างของแต่ละภูมิภาคของสกอตแลนด์มีผลทำให้วิสกี้จะมีเอกลักษณ์แตกต่างกัน
ปัจจุบันคิลท์ นำมาสวมใส่ในโอกาสพิเศษ เช่น งานแต่งงาน งานแข่งกีฬาไฮแลนด์ และงานเต้นรำดั้งเดิมของชาวสกอต นำมาดัดแปลงตัดเป็น เนคไท กระโปรง รองเท้า กระเป๋า สามารถเลือกซื้อได้เป็นของที่ระลึก
คิลท์ ต้นกำเนิดจากไฮแลนด์ ประเทศสกอตแลนด์ เป็นเครื่องแต่งกายประจำชาติของสกอตแลนด์ ทำจากผ้าลายสกอต หรือผ้าตาหมากรุก(Tartan) เป็นผ้าลายแนวตั้ง และแนวนอนที่ตัดกันหลากสีสันลวดลาย สีของคิลท์จะแสดงถึงตระกูล ครอบครัวและภูมิภาค คิลท์ มักทำจากผ้าวูลที่สามารถป้องกันละอองน้ำในหน้าฝน และให้ความอบอุ่นในหน้าหนาวได้ดี คิลท์จะตัดเป็นชุดกระโปรงสั้นพับจีบ ในประวัติศาสตร์ คิลท์สกอตมีรากฐานทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งของชายชาวสกอต เป็นสัญลักษณ์ของความรักชาติ และมีเกียรติ