Scotland Icon

การสัมมนารับเชิญสองผู้สถาปนา 2569

ราชอาณาจักรสกอตแลนด์

Isle of Skye
Edinburgh
Isle of Arran
St Andrews
Loch Ness and Glencoe
Rosslyn Chapel and Literary Tours

ข้อมูลทั่วไป

General information

สกอตแลนด์ เป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร (ประเทศอังกฤษ) โดยครอบคลุมพื้นที่หนึ่งในสามทางตอนเหนือของเกาะบริเตนใหญ่ มีพรมแดนร่วมกับประเทศอังกฤษ ทางทิศใต้ ส่วนที่เหลือล้อมรอบด้วยมหาสมุทรแอตแลนติก นอกเหนือจากแผ่นดินใหญ่แล้ว ประเทศสกอตแลนด์ยังมีเกาะอีกกว่า 790 เกาะ

นอกจากนี้น่านน้ำสกอตแลนด์ประกอบด้วยทะเลแอตแลนติกเหนือ และทะเลเหนือซึ่งมีปริมาณน้ำมันสำรองใหญ่สุดในสหภาพยุโรป ทำให้เมืองแอเบอร์ดีน นครใหญ่สุดอันดับสามในสกอตแลนด์ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงน้ำมันของทวีปยุโรปสกอตแลนด์ มีประชากรประมาณ 5,463,300 คนนับว่าน้อยมากเมื่อเทียบ กับอิงแลนด์ (อังกฤษ) ซึ่งมีประชากรถึง 56,286,961 คน แบบว่าสกอตแลนด์นั้นมีประชากรน้อยกว่าอิงแลนด์ร่วม 10 เท่า จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมื่อรบกันทีไรอิงแลนด์ก็มักจะได้รับชัยชนะอยู่เสมอ

สกอตแลนด์ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 5,000 ปี โดยมีหลักฐานการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ในสกอตแลนด์ ตั้งแต่ ยุคหินใหม่ (Neolithic) และยุคสำริด (Bronze Age) ซึ่งมีการสร้างสิ่งก่อสร้างที่เรียกว่า สโตนเฮนจ์ (Stonehenge) ที่เกาะสกาย (Isle of Skye) และเกาะอารัน (Isle of Arran)

ราชอาณาจักรสกอตแลนด์ เป็นประเทศอิสระที่ไม่ขึ้นกับประเทศอังกฤษจนถึงปี 2146 (ตรงกับสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชของไทยเรา) เมื่อพระเจ้าเจมส์ที่ 6 แห่งสกอตแลนด์ครองบัลลังก์อังกฤษ โดยทรงใช้พระนามว่าพระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ เนื่องจากพระองค์เป็นพระปนัดดาของพระนางเอลิซาเบธที่ 1 ผู้สวรรคตโดยไม่มีรัชทายาทจึงมีผลให้ทั้งสองประเทศมีพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวกันเรียกว่า การรวมราชบัลลังก์ (Union of the Crowns)

นอกจากนี้น่านน้ำสกอตแลนด์ประกอบด้วย ทะเลแอตแลนติกเหนือ และทะเลเหนือ ซึ่งมีปริมาณน้ำมันสำรองใหญ่สุดในสหภาพยุโรป ทำให้เมืองแอเบอร์ดีน นครใหญ่สุดอันดับสามในสกอตแลนด์ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงน้ำมันของทวีปยุโรปสกอตแลนด์ มีประชากรประมาณ 5,463,300 คนนับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับ อิงแลนด์ (อังกฤษ) ซึ่งมีประชากรถึง 56,286,961 คน แบบว่าสกอตแลนด์นั้นมีประชากรน้อยกว่าอิงแลนด์ร่วม 10 เท่า จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมื่อรบกันทีไรอิงแลนด์ก็มักจะได้รับชัยชนะอยู่เสมอ

King James VI
King James VI / I1566- 1625 BE
Queen Anne
Queen Anne1665 - 1714 BE
Royal Coat of Arms

สภาพอากาศ

ข้อมูลทั่วไปของประเทศสกอตแลนด์

ในสหราชอาณาจักรนั้นมีสภาพอากาศที่ไม่สามารถคาดเดาได้ แน่นอนว่าในสกอตแลนด์เองก็เช่นกัน สภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลงเกือบตลอดเวลา บางครั้งอาจได้เจออากาศร้อน อากาศหนาว มีฝนตก และมีลมแรงในวันเดียวกันเลยก็ได้

ดังนั้นก็ควรที่จะเตรียมตัวโดยการใส่เสื้อผ้าหนาๆซัก 2-3 ชั้น เช่น เสื้อยืด เสื้อกันหนาวและเสื้อโค้ต ซึ่งสามารถถอดออกได้หากรู้สึกร้อน ในฤดูหนาวจะมีอุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 2-7 องศาเซลเซียส (36-45 องศาฟาเรนไฮต์) ส่วนในฤดูร้อนจะมีอุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 9-18 องศาเซลเซียส (48-64 องศาฟาเรนไฮต์)

  • Spring(Mar/Apr/May)
    12°C/4°C (54°F/40°F)
  • Summer(Jun/Jul/Aug)
    18°C/11°C (64°F/52°F)
  • AutumnAutumn
    3°C/7°C (55°F/45°F)
  • Winter(Dec/Jan/Feb)
    7°C/2°C (45°F/36°F)

โดยทั่วไปทางทิศตะวันตกของสกอตแลนด์ มักจะอุ่นกว่าทางทิศตะวันออก เนื่องจากอิทธิพลของกระแสน้ำในมหาสมุทรแอตแลนติกที่ Western Highlands ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีเกาะเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญทางเศรษฐกิจอีกด้วย

สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ

Interesting activities

เกาะสกาย

Isle of Skye

เกาะสกาย คือสถานที่ซึ่งไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะหากมาเที่ยวสกอตแลนด์แต่ไม่ได้มาเยือนเกาะแห่งนี้ คุณจะคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่องแน่นอน (ฮ่า ๆๆ) เพราะมันเป็นเสมือนแลนด์มาร์กสำคัญด้านสถานที่ท่องเที่ยวของสกอตแลนด์ อีกทั้งความงดงามของมันยังเหมือนดินแดนในเทพนิยาย ทั้งภูเขา สายน้ำ และหมู่บ้านที่ถูกห้อมล้อมด้วยบรรยากาศสุดโรแมนติก นอกจากจะเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจแล้ว ยังเหมาะเป็นสถานที่สำหรับจัดงานวิวาห์หรือขอสาวแต่งงานอีกด้วย

เอดินเบอระ

Isle of Skye

หาก เกาะสกาย เป็นดั่งดินแดนในเทพนิยาย เอดินเบอระ ก็คงเปรียบได้กับสวรรค์บนดิน เพราะมันเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างที่มีสถาปัตยกรรมอันงดงาม และเก่าแก่ ควรค่าที่มาเห็นกับตาตัวเองสักครั้ง

นอกจากนี้หากอยากให้คุ้มค่ากับการเที่ยวสกอตแลนด์สุด ๆ ละก็ คุณจะต้องชมความงดงามของเอดินเบอระ ทั้งในยามกลางวันและยามค่ำคืน กับโมเม้นท์สวยสะดุดตาที่ต่างกันในเวลาท้องฟ้าแจ่มใสหรือเวลาท้องฟ้ามืดมิด แต่เมืองทั้งเมืองกลับส่องสว่างด้วยแสงไฟที่เล็ดลอดออกจากหน้าต่างของตึกรามบ้านช่อง ที่สำคัญบรรยากาศยังโรแมนติกสุดๆ ด้วย

เกาะอาร์ราน

Isle of Arran

เกาะ Arranอยู่ทางด้านชายฝั่งตะวันตกของชายฝั่งสกอตแลนด์ และสามารถเดินทางจากกลาสโกว์โดยใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น จุดเด่นยังอยู่ที่ภูเขาสูงซึ่งมีจุดชมวิวสวย ๆ อยู่ที่ระดับความสูง 2,866 ฟุต มันจึงเป็นอีกสถานที่สุดท้าทายของนักไต่เขาที่อยากจะไปพิชิตและยืนชมความงดงามยามพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า นอกจากนี้ยังมีปราสาทเก่าแก่อย่าง Broddick Castle ซึ่งตั้งอยู่ริมหาด อีกทั้งการล่องเรือชมความงดงามของธรรมชาติรอบเกาะก็เป็นกิจกรรมที่สนใจไม่น้อยเลย

เซนต์แอนดรูส์

St Andrews

ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง สำหรับขับรถจากเอดินเบอระ มายังเซนต์แอนดรูส์ ที่ซึ่งคุณจะทึ่งไปกับความยิ่งใหญ่ ของซากปรักหักพังบริเวณทุ่งโล่งกว้างริมทะเล ที่หลงเหลือไว้เป็นอนุสรณ์ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์ และที่มา ของสกอตแลนด์

นอกจากนี้หากเดินสำรวจไปเรื่อยๆ จะพบกับบันไดทางขึ้น ซึ่งจะนำคุณมาสู่จุดชมวิว และแน่นอนว่าคุณจะเห็นความกว้างใหญ่ของทะเลเหนือ และแนวเขาไกลลิบตาที่ตั้งเป็นแนวสลับซับซ้อน อีกทั้งยังเห็นหมู่บ้านซึ่งมีสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ ที่ดูขัดแย้งกับสนามกอล์ฟอันทันสมัยด้านข้าง

ทะเลสาบล็อคเนส และภูเขาไฟเกล็นโค

Loch Ness and Glencoe

ในดินแดนแห่งนี้มีตำนานเล่าขานกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันว่า ทะเลสาบล็อคเนส เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ประหลาดที่เรียกว่า เนสซี ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตลึกลับขนาดใหญ่ที่ผู้คนยังคงพิสูจน์และค้นหาความจริงอยู่เรื่อยๆ

นอกจากนี้ยังมีที่ราบสูงซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาท Urquhart ที่ปัจจุบันหลงเหลือไว้เพียงซากปรักหักพังเท่านั้น ความน่าสนใจของดินแดนแห่งนี้ยังอยู่ที่ ภูเขาไฟเกล็นโคซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลสาบ และมีทัศนียภาพที่งดงามเหมาะแก่การนั่งเรือเข้าไปชมใกล้ๆ อีกทั้งยังมีเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ว่ามันเคยเป็นที่สำหรับสังหารหมู่อย่างเหี้ยมโหดในศตวรรษที่ 17 ด้วย

โบสถ์รอสลิน

Rosslyn Chapel and Literary Tours

สกอตแลนด์เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย อีกทั้งยังเป็นต้นกำเนิดของนักประพันธ์และวรรณกรรมสุดเลื่องชื่อ และ ถ้าหากว่าคุณเป็นผู้ที่หลงใหลการอ่านวรรณกรรมเป็นชีวิตจิตใจละก็ แวะเวียนมาที่โบสถ์รอสลินได้เลย เพราะนอกจากความสวยงามและความเก่าแก่ของโบสถ์จะ เป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวแล้ว มันยังเป็นสถานที่ซึ่งเป็นจุดกำเนิดที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับ แดน บราวน์ ก้องโลกอย่างรหัสลับดาวินชี (Da Vinci Code) อีกด้วย ไม่แน่นะ...ใครที่ชอบงานเขียนหากได้มาเยือนสถานที่แห่งนี้ อาจจะได้แรงบันดาลใจในการสร้างงานเขียนกลับไปเต็มกระเป๋าเลยก็ได้

สนุกไปกับซิตี้บัสทัวร์

CITY bus tour

หากยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเดินทางท่องเที่ยวที่ไหนดี เราขอแนะนำให้ซื้อทัวร์กับรถซิตี้บัส ที่จะนำคุณไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวอันน่าสนใจมากมาย โดยเขาจะแวะจอดบริเวณสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญให้คุณได้ไปสัมผัสแบบครบถ้วน จึงไม่ต้อง กังวลว่าจะหลงทางหรือปวดหัวกับการวางแผนท่องเที่ยวเลย โดยรถซิตี้บัสทัวร์ เช่น กลาสโกว์, เอดินเบอระ และโอบาน เป็นต้น

งานนี้เรียกว่านอกจากจะได้บรรยากาศในการนั่งรถทัวร์ชมเมืองแล้ว ยังนับว่าคุ้มค่ามากทีเดียว เพราะราคาเริ่มต้นสำหรับผู้ใหญ่นั้นอยู่ที่ไม่เกินหนึ่งพันบาท เรียกว่าน่าสนใจไม่น้อย

เกร็ดน่ารู้

DID YOU KNOW

ต้นกำเนิดตำนาน

Loch Ness Monster

ตำนานอันโด่งดังและมีชื่อเสียงของสกอตแลนด์เกิดขึ้นที่ทะเลสาบ Loch Ness ตั้งอยู่ในส่วนไฮแลนด์ของประเทศสกอตแลนด์ “Neisse” เนสซี่ เป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างเหมือนไดโนเสาร์มีคอยาวอยู่ใต้ท้องทะเล เรื่องราวของเนสซี่ยังเป็นเรื่อง ลึกลับ และเป็นที่สนใจของคนทั้งโลกจนถึงปัจจุบัน หากไปเที่ยวที่นี่เราสามารถล่องเรือชมทะเลสาบแห่งนี้ได้อีกด้วย

กระบวนการหมักการกลั่น มีขั้นตอนอย่างพิถีพิถัน พัฒนามาเป็นระยะเวลายาวนานจนทำให้คุณภาพของสกอตวิสกี้ เป็นที่เลื่องลือจนถึงปัจจุบันนี้ สกอตวิสกี้ เป็นเครื่องดื่มดั้งเดิมเป็นเอกลักษณ์ และเป็นสิ่งที่ทำให้เรานึกถึงสกอตแลนด์ เช่นเดียวกับอีกหลายๆประเทศที่มีเครื่องดื่มที่แสดงเอกลักษณ์ของตัวเอง

สกอตวิสกี้

Scott Whisky

สกอตวิสกี้ เป็นเครื่องดื่มดั้งเดิมของสกอตแลนด์ที่มีชื่อเสียงที่สุด โรงกลั่นที่มีคุณภาพผลิตวิสกี้ มีอยู่หลายแห่งในสกอตแลนด์ ความแตกต่างของแต่ละภูมิภาคของสกอตแลนด์มีผลทำให้วิสกี้จะมีเอกลักษณ์แตกต่างกัน

ปัจจุบันคิลท์ นำมาสวมใส่ในโอกาสพิเศษ เช่น งานแต่งงาน งานแข่งกีฬาไฮแลนด์ และงานเต้นรำดั้งเดิมของชาวสกอต นำมาดัดแปลงตัดเป็น เนคไท กระโปรง รองเท้า กระเป๋า สามารถเลือกซื้อได้เป็นของที่ระลึก

เครื่องแต่งกาย คิลท์

Kilt

คิลท์ ต้นกำเนิดจากไฮแลนด์ ประเทศสกอตแลนด์ เป็นเครื่องแต่งกายประจำชาติของสกอตแลนด์ ทำจากผ้าลายสกอต หรือผ้าตาหมากรุก(Tartan) เป็นผ้าลายแนวตั้ง และแนวนอนที่ตัดกันหลากสีสันลวดลาย สีของคิลท์จะแสดงถึงตระกูล ครอบครัวและภูมิภาค คิลท์ มักทำจากผ้าวูลที่สามารถป้องกันละอองน้ำในหน้าฝน และให้ความอบอุ่นในหน้าหนาวได้ดี คิลท์จะตัดเป็นชุดกระโปรงสั้นพับจีบ ในประวัติศาสตร์ คิลท์สกอตมีรากฐานทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งของชายชาวสกอต เป็นสัญลักษณ์ของความรักชาติ และมีเกียรติ